รีวิวหนังเรื่อง Silent hill

ชื่อไทย: เมืองห่าผี
ชื่ออังกฤษ: Silent Hill
แนว: สยองขวัญ / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: คริสโตฟ์ แกนส์
ความยาว: 127 นาที


เป็นอีกหนึ่งหนังสยองขวัญชั้นดีที่มาจากเกม เราดูเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงสมัยม.ปลาย หรือประมาณ 6ปีที่แล้ว เมื่อเร็วๆนี้ได้มีโอกาสไปดูหนังภาคต่อของเรื่องนี้ อดไม่ได้ที่จะคว้าแผ่นหนัง Silent hill มาเปิดดูเรียกอารมณ์อยากรีวิวขึ้นมาอีกครั้ง เพราะพูดถึงหนังภาคสอง ไม่มีภาคแรกมันก็ยังไงๆอยู่จริงไหม?

Silent hill เป็นหนังที่มาจากเกมแนวสยองขวัญที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) โดยผู้สร้าง "RESIDENTEVIL “ ซึ่งดัดแปลงเค้าโครงเนื้อเรื่องจาก Silent Hill เกมขายดีระดับโลกของค่ายโคนามิ สามารถทำรายได้เปิดตัวใน 3 วันแรก สูงถึง 765 ล้านบาท ขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน Box Office ของสหรัฐอเมริกา

เมืองห่าผี ออกฉายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2549 และเข้าฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนพ.ศ. 2549





เรื่องย่อ ( อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย )

Silent hill ยึดหลักมาจาก เกม Silent hill ภาคแรกแต่ภาคนั้นเป็นภาคพ่อตามหาลูกในเมืองหมอกมรณะที่คนเคยเล่นจะจำได้ดีและหวาดผวาทุกครั้งที่มีเสียง หวอ เตือนถึงสิ่งลี้ลับอย่างสัตว์ประหลาด และผี โดยในภาพยนตร์จะเป็นเรื่องของ โรส เดอ ซิลวา พยายามหาทางรักษาอาการป่วยที่แปลกประหลาดของ ชารอน ผู้เป็นลูกสาวบุญธรรม โดยการพาเธอไปยังเมืองไซเลนท์ ฮิลล์ ซึ่งเป็นเมืองที่ ชารอน มักจะละเมอพูดถึงอยู่เสมอในเวลาที่เธอนอนหลับ แต่เมื่อเข้าเขตเมืองไซเลนท์ฮิลล์ รถของโรสก็ประสบอุบติเหตุ เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าชารอนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โรสจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาลูกสาวของเธอให้พบ เธอเดินทางเข้าไปในเมือง (Silent Hill) โดยพบว่าในเมืองนั้นทุกสิ่งทุกอย่างยังคงสภาพดีอยู่ ทั้งรถ อาคาร และของใช้ทุกๆอย่าง นอกจากนี้ ยังมีฝุ่นกระจายทั่วเมืองคล้ายหิมะ ซึ่งในความเป็นจริงคือคือขี้เถ้าที่ตกลงมาจากการไหม้ของถ่านหินที่อยู่ใต้เมืองที่ยังไหม้อยู่นั่นเองแม้จะตกใจและสับสนกับเหตุการณ์ประหลาด แต่โรสก็ยังคงมีความตั้งใจที่จะออกตามหาลูกสาวโดยมีตำรวจหญิง เป็นเพื่อนร่วมทาง จากเบาะแสเดียวที่โรสมีคือ สัญลักษณ์บนหลังคาโบสถ์ที่ชารอนได้วาดเอาไว้ยามที่เธอไม่รู้สึกตัว โรสได้เดินทางไปตามจุดต่าง ๆ ที่มีสัญลักษณ์แบบเดียวกับที่ลูกสาวเธอได้วาดไว้ จากการเริ่มต้นไปตามหาที่โรงเรียน และที่สำคัญคือการที่โรสได้เดินทางไปพบห้อง 111 ของโรงแรมแห่งหนึ่งในไซเลนท์ฮิล ที่เป็นที่บูชายัญ อะเลสซา (ลูกสาวของดาเลียที่มีหน้าตาเหมือนชารอน) จากนั้นโรสได้พบกับชาวเมืองไซเลนต์ฮิลที่เป็นคนในกลุ่มลัทธิ และตามเธอไปจนพบกับโบสถ์ที่ชารอนได้วาดไว้…




ว่ากันด้วย Comment

เนื้อเรื่องของหนังทำได้อย่างดี น่าติดตาม ตั้งแต่การพาชารอนเข้าไปในเมือง Silent hill ตำรวจสาวเบลเนตตามล่าเพราะคิดว่าเป็นการลัพพาตัว และการค่อยๆคลี่คลายปมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองนี้กันแน่?การผูกเรื่องกับความเชื่อ และศาสนาอย่างลัทธิ เผาแม่มดสร้างความน่าเชื่อถือและมีอารมณ์ร่วมได้อย่างดี




คาแรกเตอร์

นางเอกอย่างโรสเล่นได้ดีเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงความเป็นแม่มาก ตัวร้ายของเรื่องเย็นชาและน่าเกรงขามมากทั้งๆที่เธอแค่ยืนและพูดอย่างคนปกติทั่วไป
ผีนางพยาบาลที่เป็นเอกลักษณ์ของเกม Silent hill ทำออกมาได้อย่างดี เพียงแต่เสียดายที่ออกฉากน้อยไปนิดส่วนคาแรกเตอร์ผีตัวอื่นๆไม่น้อยหน้ากัน ต่างพากันออกมาเรียกความน่ากลัวได้ตามๆกันเลยทีเดียว






บทสรุปของเรื่อง

การเดินทางที่ยาวนานใน Silent hill เพราะ ซาตาน หรือก็คืออเลซ่าด้านมืดที่พาโรสไปยังสถานที่ต่างๆและคลี่คลายปมทีเดียวหากใครไม่เคยเล่นเกม หรือตามไม่ทันอาจจะเกิดอาการงงๆได้ หนังแฝงนัยยะ สัญลักษณ์ไว้อย่างมากมาย แสดงให้เห็นถึงความละเอียด บทสรุปของลัทธิ เผาแม่มด ที่สังเวยให้กับอเลซ่าได้สยดสยองอย่างบอกไม่ถูก น่าขนลุกทุกครั้งที่ดู และบทสรุปของเรื่องที่ทำให้เศร้าและอารมณ์ค้างไม่ว่าจะดูกี่รอบต่อกี่รอบ นั้นเป็นเหตุผลอย่างดี สำหรับคำถามที่ว่าทำไมถึงรอคอยภาคต่อของหนังเรื่องนี้เหลือเกิน ?


...สำหรับคะแนนเรื่องนี้...

เรื่อง 9/10
มุมภาพ 8/10
ความสนุก 9/10
ตอนจบ 10/10
คาแรกเตอร์ 9/10
รวม45/50
ดูครั้งแรก 2006
จำนวนครั้งที่ดู ณ.ปัจจุบัน มากกว่า 10 รอบ

อนึ่ง เคยโพสไว้ในกระทู้ Dek-d
คราวหน้าจะเอาภาคสองมาโพสขอรับ

ถือเป็นหนังที่ดีมากผมดูไม่ต่ำกว่า 10 รอบ ยิ่งดนตรีประกอบเปียนโนที่บรรยายถึงการที่อเลซซ่าถูกเผา ตรงนี้ชอบสุดๆเลย และพร็อตเรื่องได้ลุ้นมากครับ ขอบคุณที่นำมารีวิวนะครับ

ชอบมากกลับ บรรยากาศเครียด และ ความหมาย ที่มา ชวนน่าค้นหา ของหนังมากๆ หนังเรื่องนี้ ดีไซนดื พีรามิด ได้เท่ดี ของเดิม ดูเป็นเหลี่ยมๆ

ผมเรียนนิเทศ สายภาพยนตร์ เวลาครูสั่งรายงาน ผมก็นำ SH ภาค1 ไปทำเป็นรายงานซึ่งแน่นอนว่าต้องดูมากกว่า 50 รอบไป (อันนี้จริงๆ ผมดูจนจำคำพูดได้หมดเลย ถามว่าเบื่อไหม ไม่เบื่อครับ)

สำหรับภาค 1 นี้ผมชอบมาก เรพาะบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมืองร้าง ความมืด และไร้หนทางหนีเพราะผีตามได้ทุกที่ยกเว้นในโบสถ์

แต่พอมาเป็นภาค Revelation ผมสงสัยอย่างนึง สรุปมันเป็นเมืองร้างหรือเป็นเมืองที่มีหมอกปกคลุม ส่วนตอนเป็นโลกมืด ภาค1ไม่มีหลอดไฟใดๆเลย แต่ภาค 2 ผมเห็นมีหลอดไฟให้ความสว่าง และไม่มีเลือดเลย มีเพียงแค่ไฟสีเหลืองๆหลอกตาเราให้มันดูเหมือนน่ากลัว -0-

ภาค1 ผมชอบสุดๆ
ภาค 2 ผมชอบในด้านความลุ้น แต่ในโลกมืดผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไร ยิ่งตอนที่โลกมืดออกไปแล้ว ผมก็ยังแยกไม่ออกอยู่ดีว่ายังมืดอยู่หรือว่าไม่เคยมีโลกมืดเลย

เป็นหนังแม้จะแตกต้างกับเกมแต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมครับ วางเนื้อเรื่องและสร้างภาคต่อได้อย่างลงตัว ผมดูทั้งสองภาคมาแล้วครับ แต่ชอบภาคสองมากกว่าเพราะทีมงานได้เก็บรายละเอียดจากเกมภาคสามได้มากทีเดียว ขอติตรงที่ว่าตัวมอนสเตอร์ต่างๆในเรื่องจะตายง่ายๆและเร็วเกินครับ

Sun The Bones พิมพ์ว่า:เป็นหนังแม้จะแตกต้างกับเกมแต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมครับ วางเนื้อเรื่องและสร้างภาคต่อได้อย่างลงตัว ผมดูทั้งสองภาคมาแล้วครับ แต่ชอบภาคสองมากกว่าเพราะทีมงานได้เก็บรายละเอียดจากเกมภาคสามได้มากทีเดียว ขอติตรงที่ว่าตัวมอนสเตอร์ต่างๆในเรื่องจะตายง่ายๆและเร็วเกินครับ

รู้สึกเหมือนกับว่าตั้งใจจะให้มีอุปสรรค เหมือนเล่นเกมผ่านด่าน อิอิ

ก็เป็นแบบนั้นแหละครับ

Sun The Bones พิมพ์ว่า:ก็เป็นแบบนั้นแหละครับ

แต่พอทำมาเป็นหนังแล้วมันขัดๆกันยังไงไม่รู้นะ -..-

ภาคแรก ตีมุมมองเรื่องแม่ได้น่าประทับใจมากค่ะ "แม่คือพระเจ้าสำหรับลูก" เป็นประโยคที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อเรื่องที่พวกลัทธินับถือพระเจ้าซาตานอันยิ่งใหญ่ ในขณะที่สำหรับเด็กน้อยแล้ว แม่คือโลกทั้งใบสำหรับเธอ

ส่วนภาค 2 ชอบกราฟฟิคนะคะ ทำได้ดีกว่าภาคแรกเยอะ แม้ในฉากโลกสนิมจะไม่ค่อยจะน่ากลัวเท่าภาคแรกเท่าไหร่ แต่ก็ทำฉากมือขาด นิ้วขาด คอขาด สารพัดขาดๆ ได้เยอะจนกลบเรื่องนี้ไปเลย สำหรับคนที่เล่นเกม ภาคนี้จะสนุกมากจนถึงขั้นยัดป็อปคอร์นเข้าปากคนเดียวเคี้ยวดับอารมณ์จนหมดถัง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เล่น มักจะหลับกลางคัน (ดังเช่นแม่เราเอง...)

posy พิมพ์ว่า:ภาคแรก ตีมุมมองเรื่องแม่ได้น่าประทับใจมากค่ะ "แม่คือพระเจ้าสำหรับลูก" เป็นประโยคที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อเรื่องที่พวกลัทธินับถือพระเจ้าซาตานอันยิ่งใหญ่ ในขณะที่สำหรับเด็กน้อยแล้ว แม่คือโลกทั้งใบสำหรับเธอ

ส่วนภาค 2 ชอบกราฟฟิคนะคะ ทำได้ดีกว่าภาคแรกเยอะ แม้ในฉากโลกสนิมจะไม่ค่อยจะน่ากลัวเท่าภาคแรกเท่าไหร่ แต่ก็ทำฉากมือขาด นิ้วขาด คอขาด สารพัดขาดๆ ได้เยอะจนกลบเรื่องนี้ไปเลย สำหรับคนที่เล่นเกม ภาคนี้จะสนุกมากจนถึงขั้นยัดป็อปคอร์นเข้าปากคนเดียวเคี้ยวดับอารมณ์จนหมดถัง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เล่น มักจะหลับกลางคัน (ดังเช่นแม่เราเอง...)

เราว่าภาค 2 สนุกดีนะ พอฉากจะตกใจก็จะอุดหู 5555+ เป็นการดูหนังผีที่ลุ้นมากอ่ะ